เพื่อให้พ่อแม่เข้าใจและใช้ฝึกลูกที่บ้านได้

1. Active learning การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย
คุณพ่อคุณแม่ควรใช้เวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับลูก ไม่ว่าจะเป็นอ่านหนังสือ ร้องเพลง เล่นกีฬา ทำอาหาร ทำขนม เป็นต้น อาจจะชวนเพื่อน ๆมามีส่วนร่วมเล่นด้วยกัน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆด้วยกันในวันหยุด สิ่งเหล่านี้อาจจะดูเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่การเรียนรู้จากการได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย ฝึกให้ลูกรู้จักกล้าแสดงออก คิดเป็น ทำเป็น และรู้จักการแก้ปัญหา รวมถึงการอยูร่วมกับผู้อื่นด้วย
2. Learning by Doing การเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ
เปิดโอกาสให้ลูกได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมของครอบครัว ตามความสามารถและเหมาะสมกับวัย เช่น ช่วยงานบ้าน ลองคิดและทำอาหารที่อยากกินเอง โดยคุณพ่อคุณแม่คอยแนะนำ เพราะเมื่อทำสำเร็จลูกจะเกิดความภาคภูมิใจและมั่นใจในตนเอง
3. Do It Yourself การเรียนรู้ด้วยการฝึกให้เด็กรับผิดชอบและช่วยเหลือตนเองอย่างเหมาะสมกับช่วงวัย
หากพ่อแม่ให้ลูกได้ทำอะไรด้วยตนเอง ได้เรียนรู้ถูกผิด เริ่มจากเรื่่องง่าย ๆ เช่น ติดกระดุมเสื้อด้วยตนเอง สวมรองเท้า ถุงเท้าเอง จากเรื่องง่าย ๆ และเพิ่มความยากของกิจกรรมไปทีละนิด เพื่อท้าทายให้ลูกได้คิดและได้ลงมือทำ แต่ไม่ควรให้ยากจนเกินไป เพราะการตั้งเป้าหมายที่ยากเกินไป อาจทำให้ลูกเครียดได้ นอกจากไม่พัฒนา EF แล้วEFยังอาจถูกทำลายได้
4. Reading & Thinking การเรียนรู้จากการอ่าน
การอ่านจะช่วยพัฒนาทักษะสมอง สมาธิ และกระบวนการคิดของเด็ก นิทานจะมีที่มาที่ไปของเรื่อง มีการลำดับเรื่อง สิ่งสำคัญเมื่อคุณพ่อหรือคุณแม่เล่านิทานให้ลูกฟัง ควรถามคำถามให้ลูกตอบเพื่อฝึกให้ลูกรู้จักคิด วิเคราะห์ เพื่อให้เกิดกระบวนการคิด นอกจากนี้ ขณะที่ลูกฟังนิทานลูกก็จะมีสมาธิในการฟังตามไปด้วย ส่งผลให้สมองเกิดการพัฒนา
ขอขอบคุณสาระความรู้เรื่อง "กิน กอด เล่น เล่า ทำงานบ้าน : ทักษะเพื่อพัฒนา EF ทางรอดของเด็กไทยสู่ศตวรรษที่21" จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)