เหมือนมีเสบียงพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ตัวอย่างเช่นในสถานการณ์ Covid19
ลองนึกภาพคนที่มีทักษะEFดีในสถานการณ์ Covid19 แม้จะต้อง"อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" และต้อง"เว้นระยะห่างทางสังคม"นานเป็นเดือนก็ตาม แต่ด้วยคนๆนั้นมีทักษะEFดีหมายถึง คนๆนั้นจะคิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้เป็น แก้ปัญหาเป็น อยู่ร่วมกับคนอื่นเป็น และหาความสุขเป็น เขาจะอดเปรียวไว้กินหวานเป็น เพราะทักษะEFจะเป็นตัวประคับ ประคอง ควบคุม ปรับพฤติกรรม ทำให้เขาดูแลตัวเองได้เอาตัวรอดจากสถานการณ์ยากลำบากแบบนี้
นอกจากนั้นคนที่มีทักษะEFดีจะมีความสามารถในการมองไปข้างหน้า ตั้งเป้าหมาย วางแผน จัดการ จดจ่อ อดทนได้ รอคอยเป็น ปรับเปลี่ยนความคิดอย่างยืดหยุ่นเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ไม่ยึดติดตายตัว รวมถึงล้มแล้วลุกขึ้น สู้ใหม่ได้ ยืนหยัดที่จะทำงานตั้งแต่ต้นจนจบได้ และยังจัดการอารมณ์ จัดระบบความคิดไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อทำให้งานที่ทำอยู่นั้นประสบความสำเร็จอย่างถูกต้อง และเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นอย่างน้อยไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น พ่อแม่ที่มีลูกทักษะEFดีก็จะมั่นใจได้ว่าลูกๆจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยในสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดเหมือนสถานการณ์โควิด19 ที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต และพ่อแม่จะวางใจว่า ทักษะEFนี้จะเป็นหลักประกันว่าลูกๆจะประสบความสำเร็จทั้งในการเรียน อาชีพการงาน การดูแลตนเอง และสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น เขาจะก้าวผ่านและเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ประสบความสำเร็จในชีวิต และสามารถช่วยดูแลสังคมไทยและประเทศชาติของเราต่อไปได้
“แล้วพ่อแม่จะรอช้าอยู่ทำไม..ช่วยกันฝึกทักษะEFให้ลูกๆหลานๆกันตั้งแต่วันนี้ จะได้ไม่ต้องเสียดายทีหลัง!”
ขอขอบคุณสาระความรู้เรื่อง "กิน กอด เล่น เล่า ทำงานบ้าน : ทักษะเพื่อพัฒนา EF ทางรอดของเด็กไทยสู่ศตวรรษที่21" จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)